ลูกเรียนแย่ พ่อแม่ช่วยได้

1. พ่อแม่ต้องเข้าใจและยอมรับในปัญหาที่เกิดขึ้น ลดการตำหนิติเตียน ไม่ดูถูกและสนับสนุนให้ เด็กได้มีโอกาสพูดหรือเล่าปัญหาของตนเองบ้าง

2. การแบ่งหน้าที่การทำงานในบ้าน ควรให้เด็กได้ฝึกรับผิดชอบงานบ้านตามความเหมาะสมและชมเชยเมื่อเด็กทำได้ดี เช่นเก็บที่นอน ล้างจาน เช่นช่วงเย็นเด็กควรทำอะไรบ้าง เช่นการทำการบ้าน เล่นอิสระ อาบน้ำกินข้าว ดูทีวี และควรเข้านอนไม่เกินกี่ทุ่ม ควรมีการตกลงกันระหว่างเด็กและผู้ปกครอง ถือเป็นการฝึกวินัยเบื้องต้น จะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ว่าพ่อแม่ต้องช่วยกัน เฝ้าติดตามผลและปฏิบัติกับลูกอย่างต่อเนื่องและจริงจัง จนลูกทำกิจกรรมต่าง ๆ จนเป็นนิสัย

3. พ่อแม่ควรช่วยกันมองหาจุดเด่นหรือข้อดีในตัวลูก และคอยชื่นชมส่งเสริมให้ทำอย่างต่อเนื่อง เป็นการสร้างความมั่นใจในตัวเองให้กับเด็ก เช่น นิสัยดีมีน้ำใจ เล่นกีฬาเก่ง วาดรูปเก่ง กล้าแสดงออก เป็นต้น ในเวลาเดียวกันหากลูกมีจุดอ่อนบางด้าน เช่น เรียนไม่เก่ง หรือมีปัญหาด้านการปรับตัวกับเพื่อน ๆ พ่อแม่ต้องเข้าใจยอมรับคอยให้กำลังใจและคอยช่วยเหลือ เช่น ทบทวนบทเรียน พูดคุยกับลูกบ่อย ๆ หาคุณครูที่เข้าใจสอนเสริมให้ ให้ลูกมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมเสริมสร้างทักษะชีวิต

4. มีเวลาทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างสมาชิกในครอบครัว เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและช่วยให้พ่อแม่ได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของลูก ๆจ. พ่อแม่ควรยอมรับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการตามวัยของลูก โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ต้องการความเป็นอิสระ ต้องการความไว้วางใจจากพ่อแม่ ดังนั้นเวลามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ควรรับฟังอธิบายจากลูกก่อน ที่จะปรักปรำหรือลงโทษจะช่วยให้เด็กรู้สึกดีกับพ่อแม่

5.ถ้าพบว่าลูกเริ่มมีปัญหาด้านการศึกษาควรรีบพามาปรึกษาแต่เนิ่น ๆ โดยอธิบายให้เด็กเข้าใจถึงความห่วงใยและความจำเป็นในการมาพบแพทย์ เพื่อ ช่วยให้ลูกมีความสุขในการเรียนมากขึ้น

 

ที่มา : http://www.clinicdek.com/?p=293